ความเบ่งบานของศิลปะการแสดง
ทั้งล้มลุกคลุกคลานและวิวัฒน์ งันสงัดถูกปลุกโดยโศกเศร้า
เพราะมีรากในวันนี้จึงมีเรา พระราชาสถิตเราในใจนิรันดร์
ศิลปะไร้เขตไร้พรมแดน ศิลปะเป็นแกนชีวิตมั่น
ศิลปะส่องทางให้แก่กัน ศิลปะทั้งปวงนั้นจึงเบ่งบาน
คำประพันธ์สองบทนี้ถูกตั้งตระหง่านอยู่ในหน้าแรกของบทสังเคราะห์โครงการวิจัย "13ตุลาคม2559กับความเบ่งบานของศิลปะไทย” โดยมีสมชาย สําเนียงงาม เป็นหัวหน้าโครงการ ในเดือนมีนาคม ปี 2565 ได้รับทุนวิจัยจากธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) และคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
โดยงานวิจัยชุดนี้ศึกษาปฏิกิริยาของมหาชนที่มีต่อการเสด็จสวรรคตของกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ว่าเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดความเบ่งบานของศิลปะได้อย่างไร
ผลการวิจัยที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลอันเป็นรูปธรรมจากวรรณศิลป์ ทัศนศิลป์ ศิลปะการละคร สังคีตศิลป์ และภาพยนตร์ยืนยันว่า สังคมไทยมีโครงสร้างลึกอันเป็นศักยภาพของ การคิดเป็นศิลปะและการสร้างสรรค์ทางศิลปะที่แฝงอยู่ในชีวิตประจําวัน ซึ่งก่อตัวขึ้นในระดับชุมชนแล้วแผ่ขยายวงออกไป การแสดงความภักดีต่อพระราชาอย่างเสรีทั้งของผู้ที่เป็นศิลปินอาชีพและผู้รักสมัครเล่นในรูป ของงานศิลปะ เป็นผลมาจากการที่พระราชาทรงมีบทบาทเป็นศูนย์รวมใจและเป็นรากฐานให้แก่สัมพันธภาพ แนวนอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และเสริมสร้างพลังสร้างสรรค์ให้แก่กัน แม้พระราชาจะเสด็จสู่ สวรรคาลัยไปแล้ว พลังร่วมนั้นก็ยังคงอยู่ จึงเป็นการสมควรที่ระบบการศึกษาทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็น ทางการจะนําลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นของสังคมไทยที่กล่าวมาข้างต้นไปปรับเป็นทิศทางในการพัฒนา ศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบไป
โครงการวิจัยชุดนี้มีที่ปรึกษาอาวุโสคือ เจตนา นาควัชระ
ในงานวิจัย "13ตุลาคม2559กับความเบ่งบานของศิลปะไทย” ถูกแบ่งออกเป็น 6 เล่ม รวมบทสังเคราะห์ โดยเล่มที่สี่เป็นผลวิจัยของศิลปะการแสดง โดยมี ภัธทรา โต๊ะบุรินทร์ เป็นผู้วิจัยและสิขรินทร์ สนิทชน เป็นผู้ช่วยวิจัย
โดยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเอกสารทั้ง ในรูปของสื่อสิ่งพิมพ์และต้นฉบับ และข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ สัมภาษณ์ศิลปิน นักวิจารณ์ นักประวัติศาสตร์ นักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้อง และผู้รู้ด้านศิลปะ จัดเสวนาเกี่ยวกับประเด็นที่น่าสนใจทาง ศิลปะและผลการวิจัยบางประเด็น เพื่อเผยแพร่ความรู้และรับฟังข้อวิพากษ์จากผู้สนใจทางออนไลน์อย่าง ต่อเนื่องรวม 7 ครั้ง รวมทั้งจัดอบรมร่วมกับผู้รู้และผู้สนใจภายนอก 1 ครั้ง คือ “โครงการอบรมอาสาสมัครนัก วิจารณ์ในเทศกาลละครกรุงเทพ 2020” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อเผยแพร่ความรู้และ กระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวเกี่ยวกับการวิจารณ์ศิลปะด้วย
โดยในหัวข้อการวิจัยได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ของสาขาศิลปะ การละครระหว่าง พ.ศ.2550 – 2560
จากงานวิจัยประเภทของศิลปะการละครที่ปรากฏในช่วง พ.ศ.2550 – 2559 สามารถแยกได้ดังนี้
1.ละครแปลและดัดแปลงจากบทละครต่างประเทศ ได้แก่ New Theatre Society ที่ก่อตั้งขึ้น ในช่วง พ.ศ.2550 จากการรวมตัวกันของศิลปินและผู้สอนละครที่จบการศึกษาจากอังกฤษ นําโดยดําเกิง ฐิตะปิยศักดิ์
2.ละครที่ดัดแปลงหรือตีความใหม่จากวรรณกรรมไทย รวมถึงละครอิงประวัติศาสตร์ ในปี พ.ศ.2555 ประดิษฐ ประสาททองได้ก่อตั้งคณะละครขึ้นใหม่ใช้ชื่อว่า คณะละครอนัตตา โดยแยกตัวมาจากกลุ่มละคร มะขามป้อม นําเสนอผลงานในเชิงทดลองที่มีรูปแบบหลากหลาย
3.การแสดงในรูปแบบของการใช้ร่างกายในการสื่อสาร เช่น “Physical Theatre” “Butoh” และ การเต้นร่วมสมัย (contemporary dance) ในช่วง พ.ศ.2550- 2559 เกิดผลงานในรูปแบบของการใช้ร่างกาย ในการสื่อสารเรื่องราวมากขึ้น มีกลุ่มละครที่ผลิตผลงานในรูปแบบนี้ได้แก่ กลุ่มละคร 8x8 ของนิกร แซ่ตั้ง เช่น เรื่อง กรุงเทพน่ารักน่าชัง , เกิด-ดับ เป็นต้น กลุ่ม B-Floor โดย ผลงาน เช่น บางละเมิด, แผ่นดินอื่น , SATAPANA, นี่ไม่ใช่การเมือง, Fundamental เป็นต้น กลุ่มพระจันทร์เสี้ยว โดยสินีนาฏ เกษประไพ ผลงาน เช่น เงา- ร่าง, รื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผลงานประเภทการเต้นรําร่วมสมัยของพิเชษฐ กลั่นชื่น เช่น I am a demon , พญาฉัททันต์, นายใน, No.60 เป็นต้น รวมถึงผลงานของจิตติ ชมพี และกลุ่ม 18 Monkey Dance Theatre กับผลงาน The Invisible World, Party Animal เป็นต้น
4.การแสดงนาฏศิลป์ไทยร่วมสมัย ได้แก่ ลิเกร่วมสมัย กลุ่มละครอนัตตาเป็นกลุ่มที่ทํางานบนฐาน ของงานนาฏศิลป์ไทยโดยใช้เนื้อหาที่ตีความจากวรรณกรรมทั้งไทยและเทศ โดยนําเสนอผลงานในรูปแบบลิเก ร่วมสมัย เช่น นางสิบสาม, ข้าชื่อดอนกิโฆเต้ เป็นต้น
5.การแสดงโขนพระราชทาน ในขณะที่ในช่วงปี พ.ศ. 2550สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดําริให้จัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนและละครขึ้นใหม่ตามโบราณราชประเพณี พร้อมจัดการแสดงโขนพระราชทานเป็นครั้งแรก เพื่ออนุรักษ์และสืบสานการแสดงโขน ซึ่งเป็นมรดกสําคัญของชาติไทยมิให้สูญหายไปตามกาลเวลา โดยคัดเลือกจากบทละครเรื่องรามเกียรติ์
6.เทศกาลศิลปะการแสดงนานาชาติ อันได้แก่เทศกาลละครกรุงเทพ Performative art festival Asiatopia International Performance Festival” เทศกาลศิลปะการแสดงสดของกลุ่มเอเชียโทเปีย “BIPAM” การ ประชุมนานาชาติทางศิลปะการแสดงแห่งกรุงเทพฯ, “Pantomime in Bangkok” เทศกาลละครใบ้ใน กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมี “เทศกาลละครหุ่นโลก”